ลูกหนี้บัตรเครดิตไม่จ่ายขั้นต่ำ 5% ได้ตลอดทั้งปี
เศรษฐกิจไม่ดีประชาชนไม่มีเงินใช้จ่ายเตรียมเปิดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตไม่จ่ายขั้นต่ำ 5% ได้ตลอดทั้งปีหากเป็นลูกหนี้ชั้นดี
เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ไปบริษัทต้องปิดกิจการลงไปทำให้มีผลกระทบต่อลูกจ้างที่ทำงานไม่มีเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการครองชีพในแต่ละวันยังส่งผลต่อเนื่องไปยังบริษัทที่ออกบัตรเครดิตให้กับพนักงานต่างๆที่พนักงานที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต้องตกงานและไม่มีเงินไปจ่ายค่าบัตรเครดิตหรือค่าสาธารณูปโภคทางรัฐบาลได้เล็งเห็นปัญหา
ในจุดนี้จึงมีการประชุมปรึกษาหารือกันโดยร่วมมือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยมีนโยบายออกมาช่วยเหลือประชาชนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตซึ่งเป็นลูกหนี้ชั้นดีมาก่อนมันก็หมายถึงว่าโดยปกติแล้วลูกหนี้บัตรเครดิตเหล่านี้มักจะมีการจ่ายเงินตรงและไม่เคยผิดนัดชำระเลยแต่เมื่อมีผลกระทบกับปัญหาการว่างงานอยู่ในขณะนี้
ทำให้หลายคนเริ่มกายจากลูกหนี้ชั้นดีมาเป็นไม่สามารถชำระเงินได้ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้ไม่เสียประวัติการชำระเงินบัตรเครดิตและยังคงช่วยเหลือให้ประชาชนยังสามารถเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตชั้นดีได้จึงได้มีการออกนโยบายมาให้กับธนาคารที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตได้มีการอนุมัติความช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิตช่วยหาใครเป็นลูกหนี้ชั้นดีก็สามารถเปิดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ชั้นดีขึ้นมาได้
ซึ่งมาตรการนี้จะทำให้คนที่มีหนี้บัตรเครดิตสามารถชำระเงินขั้นต่ำกับทางธนาคารได้ในอัตราแค่เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยความช่วยเหลือนี้สามารถช่วยเหลือประชาชนเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยคาดว่าจะเริ่มมีผลได้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนเมษายนปีพศ 2563 เป็นต้นไป ซึ่งสินเชื่อที่จะช่วยเหลือประชาชนได้นั้นประกอบไปด้วยสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อการเช่าซื้อเช่นกันเช่าซื้อรถ ชื่อประเภทลิสซิ่งต่างๆ
เชื่อบ้านซึ่งต้องมีวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท ทั้งนี้การดูแลลูกหนี้สินเชื่อต่างๆงั้นว่าจะดูแลได้เท่าไหร่เงื่อนไขยังไงต้องขึ้นอยู่กับธนาคารของแต่ละบัตรเครดิตว่าจะออกกฎหรือมีเงื่อนไขอะไรได้บ้างซึ่งอาจจะต้องมีการรอทางธนาคารออกมาให้ข้อมูลใช้เพียงอีกครั้งหนึ่งแต่ก็ถือได้ว่าหากมีการผ่อนปรนออกมาเช่นนี้
จะช่วยให้ประชาชนได้หายเครียดกันมากขึ้นเพราะทุกวันนี้แต่ละคนต่างก็มีความเครียดเรื่องของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนต้องนำไปผ่อนไม่ว่าจะเป็นการผ่อนบ้าน หรือผ่อนรถ รวมถึงผ่อนบัตรเครดิตต่างๆซึ่งทุกคนกำลังมีปัญหาเหมือนกันหมดเพราะเมื่อไม่มีงานทำก็ไม่มีเงินที่จะมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจ่ายผ่อนสินค้าเหล่านี้
และถึงแม้บางคนจะยังคงมีงานทำอยู่ แต่ทางบริษัทก็ไม่ได้ให้เงินเต็มจำนวนมีหลายบริษัทที่ลดจำนวนเงินของพนักงานลงมา 80 เปอร์เซ็นต์หรือบางคนอาจจะถูกลดเงินเดือนเหลือลงมาแค่ 50% ซึ่งมันไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้ในแต่ละเดือนอยู่แล้วดังนั้นเมื่อวานนี้ออกมาก็อาจจะช่วยให้ประชาชนพอที่จะหายเครียดลงไปได้บ้าง