จะให้เรียนแบบไหน

จะเปิดเทอมอยู่แล้วแต่โรงเรียนยังไม่มีความชัดเจนว่าจะให้เรียนแบบไหน

            ขณะนี้ผู้ปกครองหลายคนเกิดความเครียดเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของลูกตนเองว่าจะไปในแนวทิศทางใดเนื่องจากว่ามีการประกาศออกมาจากทางรัฐบาลว่าจะให้มีการเปิดการเรียนการสอนได้ในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2563 ซึ่งแน่นอนว่าผู้ปกครองนั้นต่างก็ต้องเตรียมตัวที่จะพาบุตรหลานของตนเองไปเข้าเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมแต่ก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผู้ปกครองทุกคนว่าแล้วการเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนั้น

จะเป็นการเรียนในแนวทิศทางไหนกันแน่เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศไทยยังไม่มีวัคซีนที่จะป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ดังนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวันได้แต่ก็ยังมีผู้ที่ติดเชื้ออยู่ที่ยังรอการรักษาอยู่อีกเป็นจำนวนมากและก็ไม่แน่ว่าเมื่อมีการปล่อยให้เด็กนักเรียนไปเรียนหนังสือ

ที่โรงเรียนนั้นจะทำให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ากลับมาอีกหรือไม่เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าโรงเรียนเป็นแหล่งศูนย์รวมเด็กนักเรียนและคุณครูซึ่งโรงเรียนหนึ่งมีจำนวนนักเรียนหลายพันคนด้วยกันสำหรับโรงเรียนใหญ่ๆและถึงแม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กก็ต้องมีนักเรียนหลายร้อยคนเช่นเดียวกัน

และนักเรียนแต่ละคนเชื่อว่าคุณครูเองก็คงไม่สามารถที่จะควบคุมไม่ให้เขาแยกกันอยู่ได้และที่สำคัญพื้นที่ในบริเวณโรงเรียนนั้นก็ไม่ได้กว้างขวางมากพอที่จะให้นักเรียนยืนห่างกันเป็นคนละ 1 เม็ดได้แน่นอนและถึงแม้ว่าคุณครูจะมีการควบคุมให้นักเรียนยืนห่างกันแต่สำหรับเด็กแล้วพวกเขาย่อมต้องการเล่นกันและการเล่นของเด็กๆนั้นก็มักจะต้องถูกเนื้อต้องตัวกันเป็นธรรมดาซึ่งนี่เองเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่เด็กๆอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ดังนั้นหากวันที่ 1 กรกฎาคม

มีการเปิดให้นักเรียนไปเรียนที่โรงเรียนแล้วจะสามารถป้องกันไวรัสได้อย่างไรเพราะหากแค่รัฐบาลออกมาบอกว่าจะต้องให้โรงเรียนนั้นมีการตั้งโต๊ะเรียนห่างกันคนละช่วงแขนในการเรียนในห้องเรียนก็คือเป็นการเรียนในที่อับซึ่งบางโรงเรียนเป็นการเรียนในห้องแอร์ดังนั้นเชื้อโรคก็ยังคงวนเวียนอยู่ในห้องนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่

คงยังไม่ต้องการให้ลูกของตนเองไปเสี่ยงเรียนโรงเรียนที่ยังไม่มีการป้องกันได้มาตรฐานเป็นอย่างดีหรือหากโรงเรียนจะมีการกำหนดนโยบายให้เรียนผ่านทางออนไลน์ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรที่แน่ชัดว่าผู้ปกครอง

ควรจะต้องทำอย่างไรควรจะต้องหาอุปกรณ์อะไรมาให้ลูกเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์และที่สำคัญหากเป็นเด็กเล็กๆก็จะไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้และถ้าหากต้องให้ไปเรียนที่โรงเรียนผู้ปกครองจะวางใจได้อย่างไรว่าลูกของเขากลับมาบ้านแล้วจะไม่นำเชื้อไวรัสโคโรน่ากลับมาด้วย

 

สนับสนุนโดย  rb88 เข้าสู่ระบบ