การเรียนออนไลน์นั้นมีประโยชน์กับเด็กๆมากไหม

       ถ้าหาก ถามถึงการเรียนและปัจจุบันก็คงจะเป็นการเรียนผ่านทางออนไลน์ โดยการเรียนออนไลน์ที่ว่ามีนั้นก็จะเป็นการที่จะมีคุณครูนั่งอัดคลิปอยู่เป็นการเรียนการสอนสำหรับเด็กๆให้เด็กๆนั้นไปนั่งดูคลิปแล้วก็ตอบโจทย์คำถามของคุณครูเอาจริงๆตอนนั้นเราไม่สามารถรู้ว่าเด็กๆนั้นจะตั้งใจเรียนจริงๆหรือเปล่าเพราะว่าด้วยความที่เด็กนั้นเป็นเด็กจึงไม่ได้มีความกระตือรือร้น

มากนักในการที่จะต้องได้ทำการเรียนโดยต้องขอบอกเลยว่าจริงๆแล้วนั้นถึงแม้ว่านี่นั่นจะเป็นการเรียนออนไลน์จริงๆแล้วเราก็ไม่ต้องที่จะต้องเสียเงินให้กับทางโรงเรียนเพื่อทำการเรียนออนไลน์กับคุณครูโดยตรงก็ได้ เราสามารถเข้าไปค้นหาคลิปใน YouTube สอนภาษาอังกฤษก็ได้ แค่นี้เราก็สามารถทำได้แล้วเช่นสำหรับใครที่ต้องการฝึกพูดภาษาจีนก็แค่ลองเข้าไปค้นหาใน YouTube

ประมาณว่าต้องการฝึกเรียนภาษาจีนก็จะมีคลิปมากมายหรือแม้แต่การเข้าไปดาวน์โหลดเกมการศึกษาภาษาเท่านี้ลูกๆของเรานั้นก็สามารถทำได้ได้จริงๆเท่านั้นเราแทบไม่จำเป็นเลยที่จะต้องไปเสียเงินค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่งกับการที่จะต้องไปจ่ายลูกให้ลูกนั้นได้นั่งเรียนออนไลน์ทั้งๆที่เราสามารถประหยัดงบได้กับการเล่นเกมหรือแม้แต่การดู YouTube เอง

ก็สามารถสอบพวกเขาได้เช่นเดียวกันค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีพ่อแม่บางคนที่คิดในแง่มุมแบบนี้แต่ก็อาจจะมีพ่อแม่บางคนที่มองว่าถึงแม้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงแต่หากลูกๆของเรานั้นได้ทำการเรียนกับคุณครูที่แท้จริงและเราก็จะเป็นการที่จะทำให้พวกเขานั้น มีความรู้เยอะมากกว่าและมีความเข้าใจมากกว่าแต่จริงๆแล้วนั้นมันไม่เกี่ยวเลยว่าเราจะต้องเรียนกับครูที่โรงเรียนเขาเราจริงๆ

หรือจะต้องเรียนผ่านทางคุณครูอะไรจึงรักนั้นไม่ว่าเราจะทำการเรียนผ่านทาง ออนไลน์หรือผ่านทาง YouTube หรือเว็บไซต์สอนภาษาต่างๆมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนักเพราะจริงๆแล้วนั้นคุณครูก็ไม่สามารถเห็นอยู่ดีว่าในระหว่างที่คุณครูกำลังสอนนั้นเด็กๆกำลังทำอะไรอยู่บางทีนั้นพวกเขาก็อาจจะเพียงแค่เข้าไปเขียนตอบมั่วๆโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ

ที่จะไปดูคลิปคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ที่แท้จริง ดังนั้นจึงกล่าวได้เพียงแค่ประโยคสั้นๆว่าไม่ว่าเราจะเรียนจากเว็บไซต์อะไรหรือ จากคุณครูหรือจาก YouTube หรือเกมยังไงมันก็ไม่ต่างกันมากหรอกค่ะมันก็เป็นการสอนแบบที่ไม่เห็นหน้าที่แท้จริงอยู่ดี  ซึ่งการเรียนเหล่านี้ก็ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินกับเด็กเด็กได้เหมือนกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

จะให้เรียนแบบไหน

จะเปิดเทอมอยู่แล้วแต่โรงเรียนยังไม่มีความชัดเจนว่าจะให้เรียนแบบไหน

            ขณะนี้ผู้ปกครองหลายคนเกิดความเครียดเกี่ยวกับเรื่องการศึกษาของลูกตนเองว่าจะไปในแนวทิศทางใดเนื่องจากว่ามีการประกาศออกมาจากทางรัฐบาลว่าจะให้มีการเปิดการเรียนการสอนได้ในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมปีพศ 2563 ซึ่งแน่นอนว่าผู้ปกครองนั้นต่างก็ต้องเตรียมตัวที่จะพาบุตรหลานของตนเองไปเข้าเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมแต่ก็มีคำถามเกิดขึ้นในใจของผู้ปกครองทุกคนว่าแล้วการเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนั้น

จะเป็นการเรียนในแนวทิศทางไหนกันแน่เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศไทยยังไม่มีวัคซีนที่จะป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ดังนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแต่ละวันได้แต่ก็ยังมีผู้ที่ติดเชื้ออยู่ที่ยังรอการรักษาอยู่อีกเป็นจำนวนมากและก็ไม่แน่ว่าเมื่อมีการปล่อยให้เด็กนักเรียนไปเรียนหนังสือ

ที่โรงเรียนนั้นจะทำให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ากลับมาอีกหรือไม่เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าโรงเรียนเป็นแหล่งศูนย์รวมเด็กนักเรียนและคุณครูซึ่งโรงเรียนหนึ่งมีจำนวนนักเรียนหลายพันคนด้วยกันสำหรับโรงเรียนใหญ่ๆและถึงแม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กก็ต้องมีนักเรียนหลายร้อยคนเช่นเดียวกัน

และนักเรียนแต่ละคนเชื่อว่าคุณครูเองก็คงไม่สามารถที่จะควบคุมไม่ให้เขาแยกกันอยู่ได้และที่สำคัญพื้นที่ในบริเวณโรงเรียนนั้นก็ไม่ได้กว้างขวางมากพอที่จะให้นักเรียนยืนห่างกันเป็นคนละ 1 เม็ดได้แน่นอนและถึงแม้ว่าคุณครูจะมีการควบคุมให้นักเรียนยืนห่างกันแต่สำหรับเด็กแล้วพวกเขาย่อมต้องการเล่นกันและการเล่นของเด็กๆนั้นก็มักจะต้องถูกเนื้อต้องตัวกันเป็นธรรมดาซึ่งนี่เองเป็นความเสี่ยงอย่างมากที่เด็กๆอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้ดังนั้นหากวันที่ 1 กรกฎาคม

มีการเปิดให้นักเรียนไปเรียนที่โรงเรียนแล้วจะสามารถป้องกันไวรัสได้อย่างไรเพราะหากแค่รัฐบาลออกมาบอกว่าจะต้องให้โรงเรียนนั้นมีการตั้งโต๊ะเรียนห่างกันคนละช่วงแขนในการเรียนในห้องเรียนก็คือเป็นการเรียนในที่อับซึ่งบางโรงเรียนเป็นการเรียนในห้องแอร์ดังนั้นเชื้อโรคก็ยังคงวนเวียนอยู่ในห้องนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าผู้ปกครองส่วนใหญ่

คงยังไม่ต้องการให้ลูกของตนเองไปเสี่ยงเรียนโรงเรียนที่ยังไม่มีการป้องกันได้มาตรฐานเป็นอย่างดีหรือหากโรงเรียนจะมีการกำหนดนโยบายให้เรียนผ่านทางออนไลน์ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อมูลอะไรที่แน่ชัดว่าผู้ปกครอง

ควรจะต้องทำอย่างไรควรจะต้องหาอุปกรณ์อะไรมาให้ลูกเรียนหนังสือผ่านระบบออนไลน์และที่สำคัญหากเป็นเด็กเล็กๆก็จะไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้และถ้าหากต้องให้ไปเรียนที่โรงเรียนผู้ปกครองจะวางใจได้อย่างไรว่าลูกของเขากลับมาบ้านแล้วจะไม่นำเชื้อไวรัสโคโรน่ากลับมาด้วย

 

สนับสนุนโดย  rb88 เข้าสู่ระบบ